บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง หรือ “SNNP” ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมและเครื่องดื่มชั้นนำของไทย จับมือ บริษัท ไทยนครพัฒนา ร่วมลงนามใน MoU จัดตั้งบริษัทร่วมลงทุนมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตเวเฟอร์ บิสกิต และ เยลลี่ ในประเทศกัมพูชา เพื่อรองรับการขยายตัวของผู้บริโภคในกัมพูชาและเวียดนาม ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท พร้อมดันส่วนแบ่งรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 50% ภายใน 5 ปี
นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ระบุปัจจุบัน SNNP ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมและเครื่องดื่มและเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าหลากหลายชนิด เช่น แบรนด์เจเล่ เจเล่บิ้วตี้ ซึ่งเป็นขนมเยลลี่พร้อมรับประทาน แบรนด์เบนโตะ ปลาหมึกแผ่นปรุงรส แบรนด์โลตัส ขนมบิสกิตขาไก่บรรจุซอง แบรนด์ช็อกกี้และเบเกอรี่เฮ้าส์ขนมเวเฟอร์ และ แบรนด์เมจิกฟาร์มน้ำผลไม้บรรจุขวด เป็นต้น ซึ่งทิศทางในการขยายธุรกิจของ SNNP ต่อจากนี้จะเน้นการเติบโตในตลาดในต่างประเทศมากขึ้น จากปัจจุบันที่บริษัทมีฐานรายได้จากในประเทศไทยสูงถึงกว่า 90% และจากต่างประเทศเพียง 10%
โดยทุกวันนี้แบรนด์สินค้าของ SNNP ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ดังนั้นการลงทุนสร้างฐานการผลิตครั้งจึงช่วยประสิทธิภาพขยายฐานการกระจายสินค้า ลดต้นทุนการขนส่งเพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตามแผนการขยายการลงทุนในต่างประเทศของ SNNP นั้นจะเน้นลักษณะการลงทุนที่มีผู้ร่วมทุนที่มีความชำนาญในทำธุรกิจในประเทศนั้นๆ ซึ่งในครั้งนี้ SNNP ได้ร่วมทุนกับ บริษัท ไทยนครพัฒนา ผู้ผลิตยาชั้นนำของประเทศไทย เจ้าของแบรนด์ทิฟฟี่ ซึ่งมีประสบการณ์การทำธุรกิจในประเทศกัมพูชาและเวียดนามมากว่า 20 ปี ร่วมกันจัดตั้งบริษัท S.C. Food Products โดยทาง SNNP ถือหุ้นร้อยละ 60 และ ไทยนครพัฒนาถือหุ้นร้อยละ 40 เพื่อสร้างโรงงานผลิต เวเฟอร์ บิสกิต ขาไก่และเยลลี่ ภายใต้แบรนด์สินค้าของ SNNP เพื่อเน้นตลาด
นาย สุภชัย วีระภุชงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด ระบุว่าแม้ว่าปัจจุบันรายได้ต่อประชากรของทั้งกัมพูชาและเวียดนามยังน้อยกว่าไทยแต่ด้วยจำนวนประชากรที่รวมกันแล้วมากว่าไทย 2 เท่า และถ้านับสัดส่วนประชากรที่เป็นวัยเด็กและวัยรุ่นที่เป็นเป้าหมายหลักของผู้บริโภคขนมนั้นมีสัดส่วนที่สูงมาก ประกอบกับทั้ง 2 ประเทศมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง ทำให้เป็นโอกาสที่ดีมากในขยายการเติบโตทางธุรกิจ โดยทางกลุ่มไทยนครพัฒนานั้นได้ทำธุรกิจอยู่ในทั้งสองประเทศนี้มาเป็นเวลานาน โดยนอกจากธุรกิจยา ยังมีธุรกิจสื่อโทรทัศน์ อสังหาริมทรัพย์ เครื่องดื่มและสินค้าอื่นๆอีกมากทำให้มีความเชี่ยวชาญในตลาดทั้งสองประเทศเป็นอย่างดี และเมื่อได้ร่วมกับ SNNP ซึ่งมีเทคโนโลยีในการผลิตและแบรนด์สินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในทั้ง 2 ประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เชื่อว่าการลงทุนครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จสร้างยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้
นายฐากร ชัยสถาพร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานธุรกิจ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ยังเสริมอีกว่าการลงทุนในครั้งนี้มีความสำคัญในแผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศของกลุ่ม SNNP โดยนอกจากจะเพิ่มโอกาสในการเติบโตใน CLMV แล้วยังช่วยให้ SNNP สามารถจัดแผนการผลิตในประเทศไทยเพื่อรองรับตลาดในประเทศอื่นๆได้อีก ทั้งในเอเชียอย่าง จีน เกาหลี ฟิลิปปินส์ อินเดีย หรือตลาดในอนาคตอย่างยุโรปและอเมริกา ปัจจุบันโรงงานในกัมพูชาอยู่ระหว่างการขอการรับส่งเสริมการลงทุนและได้เริ่มมีการปรับพื้นที่เพื่อเตรียมการก่อสร้างแล้วโดยคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมดำเนินการภายในปลายปี 2561
โดยนอกจากการลงทุนฐานในกัมพูชาแล้วทาง SNNP และไทยนครพัฒนาก็มีแผนเข้าลงทุนสร้างโรงงานผลิตขนมและเครื่องดื่มในเวียดนามด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันได้เข้าทำสัญญาเช่าที่ดินไว้แล้วที่นิคมอุตสาหกรรม VSIP ใกล้กับนครโฮจิมินห์
ที่มา : https://www.matichon.co.th/publicize/news_750737